ทำความรู้จักกับโรคเส้นเลือดขอด อาการของเส้นเลือดขอด สาเหตุที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด วิธีการป้องกันและรักษาเส้นเลือดขอดที่ถูกต้อง
โรคเส้นเลือดขอด (Varicose Veins) เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดดำ ซึ่งเป็นส่วนของลิ้น ที่ทำหน้าที่เปิดปิดส่งเลือดจากขาขึ้นไปสู่หลอดเลือดดำใหญ่ ความผิดปกตินี้เป็นตัวการที่ทำให้เลือด ไม่สามารถลำเลียงเข้าสู่หัวใจได้ทั้งหมด เกิดการย้อนกลับมา ค้างอยู่ในหลอดเลือด ทำให้มีลักษณะคดเคี้ยวจนผิดปกติ
โรคเส้นเลือดขอดนี้เกิดจากความ ความอ่อนแอของโครงสร้างผนังเส้นเลือดดำ ซึ่งในขาของเรานั้นจะมีลิ้นซึ่งแยกเป็น 2 แฉก คล้ายกับถ้วยเล็กๆ อยู่ภายใน โดยปกติลิ้นพวกนี้จะอยู่ห่างจากกันประมาณ 2 นิ้ว และจะทำหน้าที่เปิดออกให้เลือดไหลไปสู่หัวใจ และจะเปิดไปในทิศทางเดียวกัน คือเลือดไม่สามารถย้อนกลับมาได้ แต่สำหรับผู้ที่เป็นเส้นเลือดขอดนั้นแฉกของลิ้นจะอยู่ห่างกัน เลือดที่ไหลขึ้นไป ก็มีโอกาลที่จะไหลย้อนกลับมาทำให้เส้นเลือดโป่งหรือนูนออกมาเป็น เส้นคดเคี้ยวไปมาแบบผิดรูปหรือเป็นคล้ายกับใยแมงมุม มีสีเขียว สีแดงหรือสีม่วง ตามอาการของแต่ละคน
1.อายุที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้ผนังหลอดเลือดดำขาดความยืดหยุ่น และลิ้นเล็ก ๆ ภายในหลอดเลือดเสื่อม ไม่สามารถปิดกั้นการไหลย้อนกลับของเลือดได้ ทำให้เกิดการคั่งของหลอดเลือดได้
2.คนที่ต้องยืนหรือเดินนานๆ ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับอาชีพ เช่น หมอ พยาบาล พนักงานขาย แอร์โฮสเตส
อาชีพเหล่านี้เสี่ยงต่อการเป็นเส้นเลือดขอดเป็นอย่างมาก เพราะการที่เรายืน แรงดึงดูดของโลก จะดึงดูดเลือดที่อยู่ในเส้นเลือดให้ลงไปอยู่จุดศูนย์กลางของโลก ทำให้เลือดอยู่ที่ต่ำสุดของร่างกาย ก็คือขา ที่จะมีแรงดันมากที่สุด พอไปร่วมกับความปิดปกติของลิ้นเส้นเลือด ก็ทำให้เส้นลือดโป่งแล้วกลายเป็นเส้นเลือดขอดในที่สุด
3.หญิงตั้งครรภ์ จะเกิดการอุดตัน การปรับของเส้นเลือดดำ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและมดลูกที่โตขึ้น นอกจากนั้นยังเกิดจากน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นในขณะตั้งครรภ์ ความดันภายในทำให้เลือดไหลกลับไปช้าลง ซึ่งอาการเส้นเลือดขอดนี้ จะหายได้เองภายใน 3 เดือนหลังจากคลอดลูกแล้ว
4.น้ำหนักที่มากเกินไป ทำให้เกิดแรงดันที่สูงขึ้นภายในหลอดเลือดบริเวณขา เป็นสาเหตุให้เกิดเส้นเลือดขอดที่ขาได้ ดังนั้นควรหมั่นออกกำลังกายหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ก็จะช่วยน้ำหนักตัวลดลงได้
5.พันธุกรรม สำหรับบุคคลที่คนในครอบครัวเป็นเส้นเลือดขอดมาก่อน ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงในการเป็นเล้นเลือดขอด มากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า และที่สำคัญคือพฤติกรรมการใช้ชีวิต และอาหารการกินร่วมด้วย
6.ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย บางทีการไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย อาจทำให้กล้ามเนื้อและหลอดเลือดบริเวณที่ขา เกิดการเสื่อมประสิทธิภาพขึ้นมาได้ ก็จะทำให้การไหลเวียนของเลือดติดขัดไปด้วย
ในส่วนของอาการของโรคเส้นเลือดขอด แบ่งเป็น 6 ระดับด้วยกัน ตั้งแต่ระยะเบาจนไปถึงระยะหนักและอาจจะถึงขั้นเสียชีวิต
เราสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ว่า เราอยู่ในกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงหรือไม่ เช่น ถ้าเราเดินหรือยืนนานๆ เราจะมีอาการเป็นตะคริว ปวดเมื่อยบริเวณขา ปวดตึงบริเวณน่อง หรือมีอาการขาบวมร่วมด้วย ก็มีแนวโน้มว่าโรคเส้นเลือดขอดได้มาเยือนเราแล้ว
โรคเส้นเลือดขอด ส่วนใหญ่เป็นโรคที่พบได้บ่อยคือประมาณ 10-20% แต่ด้วยความที่ในระยะแรกๆ ไม่แสดงอาการให้เห็น การป้องกันจึงช้าไป พอรู้ตัวอีกทีก็เห็นเป็นเส้นเลือดนูนและคดเคี้ยว เพราะฉะนั้นถ้าเริ่มมีอาการปวดบวม ตึงหรือชาบริเวณขาก็ควรไปปรึกษาแพทย์แล้วรีบสวมถุงน่องรักษาเส้นเลือดขอด ซึ่งเป็นถุงน่องทางการแพทย์ไว้แต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้โรคเส้นเลือดขอดรุนแรงและเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
อาการเส้นเลือดขอดมักพบในเพศหญิงที่มีอายุระหว่าง 40 – 50 ปี ผู้สูงอายุ คนที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือหญิงมีครรภ์ แต่คนที่มีอายุน้อยๆ
ก็ไม่ควรชะล่าใจเพราะก็เสี่ยงต่ออาการเส้นเลือดขอดได้เช่นกัน
เพศหญิง มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ มากกว่าเพศชาย ถึง 3 เท่า
โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องยืนหรือนั่งนานๆ เช่น พนักงานต้อนรับ พนักงานร้านอาหาร ทันตแพทย์ ครูอาจารย์ พนักงานในห้างสรรพสินค้า พนักงานบริษัท ที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลาระยะเวลานานๆ
อ่านบทความ ... 11 อาชีพที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นเส้นเลือดขอด
มาถึงคำถามยอดฮิตของสาวๆ หลายๆ คน คือเวลาที่เราเป็นเส้นเลือดขอดแล้ว มักจะมีอาการเจ็บที่บริเวณหลอดเลือดดำ ซึ่งมีการโป่งออกของเส้นเลือด หรือถ้าเป็นมากกว่านั้นก็จะมีอาการเจ็บปวดไปทั่วทั้งบริเวณขา เป็นอาการที่ทรมานและจะเป็นมากขึ้น เมื่อเราต้องยืนเป็นเวลานานๆ หรือก่อนที่จะมีประจำเดือน เพราะช่วงนี้ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง และอาการจะแย่ลงมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการขยับร่างกายให้บ่อยครั้ง รวมถึงการนอนก็ควรจะยกขาสูง จะช่วยบรรเทาอาการปวดขาได้
สำหรับคนที่ปวดมากๆ หรือทรมานจนทนไม่ไหว ก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ เพราะจริงอยู่ที่เส้นเลือดขอดเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการปวดขาได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายๆ โรคที่สามารถทำให้เกิดการปวดขาได้ด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าพบแพทย์แล้ว แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเป็นเส้นเลือดขอดแล้วนั้น แนวทางการรักษาก็มีหลากหลายวิธี เช่น วิธีการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด การรักษาโดยการฉีดสารระคายเคืองเข้าที่เส้นเลือดขอด การผ่าตัดหรือแม้แต่การใส่ถุงน่องทางการแพทย์ ถุงน่องป้องกันเส้นเลือดขอด ที่ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก
ทั้งนี้แนวทางการรักษานั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับระดับอาการและความรุนแรงของแต่ละบุคคลด้วย บางคนอาจต้องใช้ระยะเวลาในการรักษามากหรือน้อยต่างกันไป ตามแต่อาการและระดับความรุนแรงของโรค เพราะฉนั้นสาวๆ ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนก เพราะก็มีหลายๆ คนที่ไม่ต้องพี่งการผ่าตัด แต่เพียงแค่เวลานอนให้ยกขาสูงกว่าตัวเล็กน้อย และใส่ถุงน่องรักษาเส้นเลือดขอด แต่การใส่ถุงน่องป้องกันนั้นก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตร่วมด้วย เช่น ออกกำลังกายให้มากขึ้น พยายามเลี่ยงการใส่ส้นสูง หรือถ้ารู้สึกตัวว่าเรากำลังยืนหรือนั่ง เป็นระยะเวลานานๆ ก็ต้องพยายามขยับขาหรือยืดขา เป็นต้น
การรักษาด้วยวิธีการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำนี้เหมาะกับ เส้นเลือดขอดที่มีขนาดเล็กกว่า 3 มิลลิเมตร และเส้นเลือดยังไม่มีการนูน บวมหรือคดเคี้ยว หลังจากฉีดสารแล้ว ควรสวมใส่ถุงน่องป้องกันเส้นเลือดขอด ในการบีบรัด เพื่อให้ยาที่ฉีดเข้าไปได้ผลดี และช่วยให้หลอดเลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้น แต่วิธีนี้เป็นการรักษาที่ไม่ขาดหาย ในระยะยาวอาจกลับมาเป็นซ้ำอีก และอาจมีผลข้างเคียงตามมาด้วย เช่น อาจมีอาการปวด บวมแดง มีเลือดออก หรือรอยคล้ำ ตามแนวเส้นเลือดที่ฉีด
เป็นการผ่าตัดโดยการดึงเอาเส้นเลือดที่ขอด ออกไปตลอดทั้งเส้น การทำแบบนี้คือการป้องกัน การกลับมาเป็นซ้ำอีก การรักษาโดยวิธีนี้ สำหรับคนที่เป็นขั้นรุนแรง เส้นเลือดขอดที่มีขนาดใหญ่และยาวมาก โดยมีเส้นเลือดขอด ประมาณ 4-6 มิลลิเมตร มีอาการปวดขา เลือดออก มีแผลเรื้อรังร่วมด้วย วิธีนี้ก็มีผลข้างเคียง เช่น อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้น หรือบริเวณข้างเคียงเสียหายได้ และเกิดแผลหลังการผ่าตัด ก็ต้องดูแลให้ดีเป็นพิเศษ
การเลเซอร์รักษาโรคเส้นเลือดขอด คือการใช้เครื่องเลเซอร์ ที่มีความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร วิธีนี้เป็นการรักษาที่ไม่เกิดบาดแผล มีความปลอดภัยและรวดเร็ว และเจ็บตัวน้อยที่สุด คนที่มีเส้นเลือดขอด ขนาดเล็กกว่า 3 มิลลิเมตร วิธีนี้จะเหมาะมาก เพราะแสงเลเซอร์จะเข้าไปทำลายผนังเส้นเลือด ให้สลายหายไป แต่วิธีนี้จำเป็นต้องทำหลายครั้ง ในทุกๆ 6-12 สัปดาห์ และต้องทำต่อเนื่องไปนานหลายปี จนเส้นเลือดขอดหายไปจริงๆ
วิธีนี้จะใช้การเจาะผ่านรูเข็มขนาดเล็ก แล้วใส่ไปในขดลวดขนาดเล็ก โดยคลื่นตัวนี้จะไปทำให้ผนังเส้นเลือดดำฝ่อลง แต่หลังจากทำไปแล้ว ก็ต้องคอยสังเกตอาการอีกที เพราะอาจจะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุนี้ ไม่ทำให้เจ็บปวด ใช้เวลาไม่นาน ไม่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวัน และหลังจากการรักษา ควรใส่ถุงน่องเส้นเลือดขอดร่วมด้วย และต้องใส่ในทุกๆ วันเป็นอย่างเป็นประจำและสม่ำเสมอ
เป็นยาในกลุ่มไดออสมินและเฮสเพอริดิน เป็นตัวยาที่จะยับยั้งกระบวนการอักเสบให้ลดลง และช่วยให้ลิ้นในหลอดเลือดดำ กลับมาเป็นปกติ
(วิธีการที่เจ็บตัวน้อยที่สุด และรักษาได้จริง) ถุงน่องเส้นเลือดขอดจะทำหน้าที่ในการบีบรัดบริเวณขาเวลาที่เราเดินหรือยืน ระดับแรงดันที่แนะนำคือ Class 2 (20-35 mmHg) ซึ่งเป็นระดับที่แพทย์ แนะนำให้ใช้
ในส่วนของค่าบริการรักษาเส้นเลือดขอดแต่ละที่ก็แตกต่างกันออกไปตามการบริการ ความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว
โรงพยาบาลรามา มีหมอที่เป็นอาจารย์หมอเก่งๆอยู่มากมาย ข้อเสนอแนะของทางเว็บแนะนำให้โทรเข้าไปที่เบอร์ 02-201-1000 เพื่อติดต่อสอบถามข้อมูลในการรักษาเบื้องต้นและจองคิวรักษากับอาจารย์หมอที่ต้องการ อัตราค่าบริการรักษาโรคเส้นเลือดขอดโรงพยาบาลรามาอยู่ที่ 2000-50000 บาท
หลายๆคนแนะนำให้ไปหาหมอ เฉนียน ที่ศิริราช รักษาโรคเส้นเลือดขอดในเบื้องต้นจนถึงการผ่าตัด
ในส่วนของค่าบริการรักษาเส้นเลือดขอดโรงพยาบาลศิริราช ค่าหมอและค่ายาที่ฉีดครั้ง ราคา ไม่เกิน 2000 บาท
แนะนำให้ผู้ที่ต้องการรักษาเข้าพบแพทย์และทำการจองคิวไว้ก่อนเพราะต้องรอคิวนานมาก
หากเป็นคนไข้ที่ไม่ฉุกเฉิน ไม่จำเป็นต้องรักษาด่วนแนะนำให้โทรไปสอบถามและจองคิวผ่านโทรศัพท์(ไม่แน่ใจว่ายังมีอยู่การจองคิวผ่านโทรศัพท์อยู่หรือไม่) เพราะหาก walk in เข้าไปตรวจอาจจะต้องรอเป็นระยะเวลานาน อัตราค่าบริการรักษาเส้นเลือดขอดโรงพยาบาลจุฬา ประมาณ 5000-30000 บาท
แนะนำให้หาคลินิครักษาเส้นเลือดขอดบริเวณใกล้บ้านก่อน เพื่อเป็นความสะดวกแก่คนไข้ในการรักษา เพราะหลังการรักษาจะให้งดใช้ขาเป็นเวลาสั้นๆ การหาคลินิคที่ใกล้ที่สุด วิธีการที่ง่ายที่สุดโดยการค้นหาบน google.com แล้วค้นหาคำว่า คลินิครักษาเส้นเลือดขอด ใกล้ฉัน หรือคลิก ที่นี่ !
โรคเส้นเลือดขอดนั้น ในแต่ละคนอาการที่เป็นก็อาจจะแตกต่างกันไป บางคนเป็นเส้นเลือดฝอยเยอะและกระจายทั่วบริเวณขา บางคนขึ้นเป็นเส้นคดเคี้ยว หรือบางคนเส้นคดเคี้ยวนั้น ปูดและบวมนูนออกมา ซึ่งถ้าเป็นอาการแบบนี้แล้ว แสดงว่าอยู่ในระยะลุกลาม หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาอาการก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น คือ สีของผิวหนังบริเวณขา อาจเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ผิวหนังบริเวณขาแข็งกระด้างมากขึ้น เริ่มมีแผลเรื้อรังตามมา
แต่โรคเส้นเลือดขอดไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด เพราะเราสามารถป้องกันได้ โดยการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
Remedy Vein 2019